5 โซลูชั่นอัจฉริยะจากแนวคิดคนรุ่นใหม่เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในเขตเมือง
Technology & Innovation

5 โซลูชั่นอัจฉริยะจากแนวคิดคนรุ่นใหม่เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนในเขตเมือง

  • 27 Dec 2021
  • 4610

เมืองใหญ่กำลังถูกท้าทายด้วยมลพิษทางอากาศ และประเด็นการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศในปัจจุบัน ก็เป็นหัวข้อหลักของคำถามที่ว่าเราจะอยู่กันต่อไปอย่างไร เพราะพื้นที่ 70% ของเมืองกำลังเผชิญกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และเกือบทั้งหมดมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมจากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นและพายุที่รุนแรง

ด้วยตระหนักถึงหายนะทางสภาพภูมิอากาศที่มีแนวโน้มจะรุนแรงอีกขึ้น หากไม่มีการลงมือทำเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งจึงได้พยายามพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ ดังเช่นผู้พัฒนาโซลูชั่นเหล่านี้ที่ช่วยสร้างความหวังว่าโลกเราจะยังคงมีสภาพภูมิอากาศที่ดีได้อย่างยั่งยืน (ถ้าเราช่วยกัน)

Everimpact
ตรวจวัดการปล่อย CO2 ด้วยดาวเทียม
Everimpact เป็นสตาร์ตอัพที่พัฒนาวิธีการใหม่ในการวัดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยซอฟต์แวร์ที่ช่วยจัดการปัญหาโดยอิงจากข้อมูลจริง ผ่านการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและเซ็นเซอร์ภาคพื้นดิน มีการรีเฟรชแดชบอร์ดหลักทุกครั้งที่ดาวเทียมผ่านเหนือศีรษะ

ลอนดอน (อังกฤษ), บาร์เซโลนา (สเปน), มาดริด (สเปน), มาลากา (สเปน), แมนเชสเตอร์ (อังกฤษ), โปร์ตู (โปรตุเกส), ซันตันเดร์ (สเปน) และเฮิร์นนิง (เดนมาร์ก) คือ 8 เมืองนำร่องที่ใช้ประโยชน์จากซอฟต์แวร์ข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ Everimpact ทำให้แต่ละเมืองมีข้อมูลพื้นฐานเพื่อการตัดสินใจวางกลยุทธ์ จัดลำดับความสำคัญของปัญหา และแนวทางการปรับปรุงแก้ไขปัญหามลพิษภายในเขตเมือง เช่น จะเปลี่ยนระบบทำความร้อนหรือเลือกแหล่งพลังงานใหม่ดี จะมีการปล่อยมลพิษลดลงมากเพียงใดในเส้นทางจราจรหรือเขตที่ห้ามไม่ให้รถยนต์เข้า ฯลฯ

Virimodo
ลดคาร์บอนตอนนี้เลย!
Virimodo ซึ่งมีชื่อมาจากภาษาละตินว่า “viridis” หมายถึง สีเขียว และ “modo” หมายถึง ตอนนี้ เป็นแพลตฟอร์มระบบสมาชิกในการวัดประสิทธิภาพและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สำหรับผู้อยู่อาศัยในเมืองทั้งที่เป็นเจ้าของและผู้เช่าอาคารที่ต้องการให้มีการตรวจสอบข้อมูลพลังงานทั้งในระดับอาคารและระดับยูนิต

แอพพลิเคชันของ Virimodo จะช่วยให้เจ้าของอาคารและที่พักอาศัยสามารถประเมินและติดตามการใช้พลังงานและน้ำในแต่ละเดือนได้อย่างสะดวก และยังมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายผู้ให้บริการพลังงานสะอาดชั้นนำในพื้นที่ เพื่อช่วยให้เจ้าของอาคารและที่พักอาศัยสามารถปรับแต่งแผนพลังงานสีเขียวและติดตามการใช้พลังงานของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด โดยทางแพลตฟอร์มมีความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในการวิเคราะห์ข้อมูลพลังงานอย่างละเอียดมาตั้งแต่ปี 2005 และได้รับการอัพเดตเป็นประจำเพื่อสะท้อนถึงแนวโน้มด้านพลังงานที่เปลี่ยนแปลงไปรวมถึงแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด

“พันธกิจของ Virimodo คือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในเมืองต่าง ๆ โดยทำให้แต่ละอาคารมีความเป็นกลางทางคาร์บอน” ดอนน่า แซนเดอร์ส (Donna Sanders) ซีอีโอกล่าว ขณะที่ เยฟเชนีย์ ออร์ลอฟกีย์ (Yevgeniy Orlovskiy) ซีทีโอระบุว่า บริษัทมีเป้าหมายในการยกระดับอนาคตของพลังงาน โดยให้ทุกคนเข้าถึงพลังงานหมุนเวียนได้อย่างทั่วถึง เพื่อให้โลกมีอากาศบริสุทธิ์ ท้องฟ้าแจ่มใส และผู้คนที่มีสุขภาพดีขึ้น รวมถึงช่วยอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้กับคนรุ่นต่อไป

Carbicrete
อิฐบล็อกไร้คาร์บอน
Carbicrete สตาร์ตอัพด้านเทคโนโลยีการกำจัดคาร์บอนที่มีฐานอยู่ในมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ได้พัฒนานวัตกรรมซึ่งมีส่วนช่วยในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นั่นก็คืออิฐบล็อกคอนกรีตที่ปราศจากซีเมนต์ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างจากคอนกรีตแบบดั้งเดิมที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบหลัก อันเป็นตัวการทำให้เกิดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ทั่วโลกถึง 8%

คริส สเติร์น (Chris Stern) ซีอีโอของคาร์บิกรีตกล่าวถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัทว่าจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยการกำลังนำเอา CO2 ออกจากระบบการผลิตคอนกรีต

Carbicrete เป็นหนึ่งในหลาย ๆ บริษัทที่แข่งขันกันเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์คาร์บอนต่ำหรือปราศจากคาร์บอนเป็นทางเลือกแทนคอนกรีตแบบดั้งเดิม แต่ปัจจุบัน Carbicrete ยังเป็นเพียงบริษัทเดียวที่เคลมว่าประสบผลสำเร็จในการผลิตวัสดุก่อสร้างไร้คาร์บอนนี้ 

ทั้งนี้ การผลิตอิฐคอนกรีตที่ปราศจากซีเมนต์ของ Carbicrete คือการใช้วิธีดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์โดยใช้ขี้ตะกรันซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมถลุงเหล็กกล้า โดยองค์ประกอบที่มีอยู่ในขี้ตะกรันนั้นคือแคลเซียมออกไซด์ (CaO) ซึ่งมีความสามารถในการกักเก็บคาร์บอน จากนั้นนำสารละลายแคลเซียมไอออนที่ได้จากการชะละลายขี้ตะกรันด้วยน้ำปราศจากไอออนนี้ มาใช้ในกระบวนการผลิตอิฐบล็อกของ Carbicrete เพื่อป้องกันไม่ให้มีการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศ

Remora
สิงห์รถบรรทุกดักจับ CO2
Remora สตาร์ตอัพผู้ผลิตอุปกรณ์ตรวจจับการปล่อยคาร์บอนสำหรับรถบรรทุกและรถพ่วงได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวด Greenhouse Gas Solutions ของ Cisco ในปี 2021

จากการเปิดเผยของสามผู้ร่วมก่อตั้งระบุว่า อุปกรณ์ของ Remora สามารถดักจับการปล่อยคาร์บอนของรถบรรทุกและรถพ่วงได้อย่างน้อย 80% โดยคาร์บอนที่จับได้นั้นยังสามารถนำไปขายให้กับอุตสาหกรรม เช่น ผู้ผลิตคอนกรีต หรือเพื่อการแยกเก็บคาร์บอนอย่างถาวรเพื่อป้องกันไม่ให้มีการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศซ้ำอีก 

ที่ผ่านมา หลายบริษัทต่างพยายามเปลี่ยนแปลงการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลของรถบรรทุกให้เป็นพลังงานไฟฟ้า แต่ก็พบว่ามันยากที่จะเปลี่ยนยานพาหนะซึ่งต้องวิ่งไปหลายพันกิโลเมตรในการขนส่งสินค้าเป็นประจำมาเป็นการใช้แบตเตอรี่ซึ่งจะกินพื้นที่และต้องแบกรับน้ำหนักจำนวนมาก แถมยังยากต่อการสร้างสถานีชาร์จสำหรับรถบรรทุกให้มีโอกาสได้ชาร์จไฟฟ้าอย่างเพียงพอต่อการเดินทางระยะไกล Remora จึงได้พยายามเอาชนะความท้าทายนี้ พัฒนาออกมาเป็นอุปกรณ์ดักจับคาร์บอนแบบเคลื่อนที่สำหรับรถบรรทุกและรถพ่วง ที่มีการทำงานคล้ายตัวกรองขนาดยักษ์โดยติดยึดกับท่อไอเสีย ในขณะที่ไอเสียระบายผ่าน ตัวเครื่องก็จะดูดซับโมเลกุลคาร์บอนไดออกไซด์ไว้แล้วปล่อยให้ก๊าซที่ไม่เป็นอันตราย เช่น ไนโตรเจนและออกซิเจนผ่านออกไปสู่บรรยากาศแทน

จากนั้นเมื่อคนขับจอดรถเพื่อเติมน้ำมัน พวกเขาจะสามารถสูบคาร์บอนที่ดักเก็บไว้นั้นลงในถังขนถ่ายที่ Remora วางแผนจะติดตั้งไว้ตามศูนย์กระจายสินค้าและจุดจอดรถบรรทุก โดยคาร์บอนที่เก็บได้นี้สามารถนำไปขายหรือนำไปแยกเก็บถาวรในภายหลังได้ต่อไป 

Climeworks
นวัตกรรมพิฆาตก๊าซเรือนกระจก
สตาร์ตอัพผู้พัฒนาเทคโนโลยีดักจับคาร์บอนในสวิตเซอร์แลนด์ที่ชื่อ Climeworks ได้พัฒนาเทคโนโลยี DAC (Direct Air Capture) ซึ่งสามารถนำคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ออกจากอากาศได้มากถึง 90% แล้วกักเก็บไว้ใต้ดินลึกในชั้นโพรงทางธรณีวิทยา (Geological Formation) อย่างถาวร หรือแปรสภาพเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมจำเป็น

การทำงานของนวัตกรรมเครื่องดักจับนี้จะเริ่มจากการดักจับ CO2 ที่ลอยอยู่ในอากาศผ่านฟิลเตอร์ จากนั้นก็สกัด CO2 ออกมาด้วยความร้อน 100 ºC จนได้คาร์บอนไดออกไซด์บริสุทธิ์ ซึ่งสามารถนำไปเป็นตัวตั้งต้นในการใช้ประโยชน์ด้านต่าง ๆ เช่น การเกษตร การเป็นวัตถุดิบในน้ำอัดลม และการผลิตเชื้อเพลิงสังเคราะห์

Climeworks สามารถระดมทุนได้แล้ว 125 ล้านเหรียญสหรัฐ และในเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัทก็ได้เปิดตัวโรงงานดักจับและกักเก็บคาร์บอนโดยตรงซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ชื่อว่า “Orca” ที่เมืองเฮลลิสไฮดิ (Hellisheidi) ประเทศไอซ์แลนด์ ประกอบด้วยตู้คอนเทนเนอร์ 8 ตู้ที่อยู่รอบ ๆ จุดศูนย์กลางซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ (Geothermal Power Plant) ที่สามารถดำเนินการและควบคุมโรงงานได้จากระยะไกล โดยแต่ละตู้สามารถดักจับคาร์บอนได้ถึง 500 ตันต่อปี ขณะที่ความร้อนและไฟฟ้าที่ต้องใช้ในกระบวนการดักจับ CO2 นั้นก็มาจากโรงไฟฟ้าที่ตั้งอยู่จุดศูนย์กลางนั่นเอง

ที่มา :
บทความ “Smart Solutions for Smart Cities: Carbon Reduction in Urban Areas” โดย Jan Mattsson, Jennifer Elftmann, & Nazgol Agah จาก www.plugandplaytechcenter.com
บทความ “ ‘We’re taking CO2 out of the system’ says carbon-capturing concrete maker Carbicrete” โดย Jennifer Hahn จาก www.dezeen.com
บทความ “virimodo: Web App Solutions for Lowering Carbon Emissions and Improving Building Efficiency in Cities” โดย Sarah Long จาก https://greenbusinessbureau.com
บทความ “Techstars Alabama EnergyTech Startup spotlight: Virimodo” โดย Alabama NewsCenter Staff จาก https://alabamanewscenter.com
บทความ “This Startup Fights Climate Change by Capturing Carbon Emissions From Trucks” โดย Cisco จาก www.globalcitizen.org
บทความ “นวัตกรรมดักจับ CO2 แปรสภาพเป็นพลังงานสะอาด รักเรา รักษ์โลก” จาก www.creativemove.com
startup-energy.org
everimpact.com
carbicrete.com
virimodo.com
remoracarbon.com
climeworks.com

เรื่อง : ผกา กรองคำแก้ว