เมื่อเสียง “รบกวน” อาจชวนให้มี “สมาธิ”
“เสียง” อยู่รอบตัวเราตั้งแต่ตื่นเช้าจนเข้านอน สิ่งต่าง ๆ ที่เราได้ยินนั้นส่งผลต่อทั้งร่างกาย พฤติกรรม และจิตใจของเราได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสียงนาฬิกาปลุกที่ทำให้ต้องตื่นจากภวังค์ในตอนเช้า เสียงรถพยาบาลที่อาจสร้างความวิตกกังวล เสียงการต่อเติมบ้านของเพื่อนบ้านใกล้ ๆ ที่กวนสมาธิ เสียงยุงที่คอยสร้างความรำคาญเวลามาบินข้างหู หรือเสียงคลื่นกระทบกับชายหาดที่มักทำให้ผ่อนคลายเวลาได้ไปเที่ยวทะเล
อย่างไรก็ตาม เสียงรูปแบบต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรานั้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจรวมถึงสมาธิในการทำงานของแต่ละคน ในปัจจุบันทางเลือกการใช้ “เสียง” เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะไม่ว่าจะเป็นการช่วยคลายเครียด ลดการวิตกกังวล เพิ่มสมาธิ หรือช่วยในเรื่องการนอนหลับนั้นเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น ยิ่งบวกเข้ากับอุปกรณ์และเทคโนโลยีด้านการฟังต่าง ๆ ที่พัฒนามากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ก็ยิ่งทำให้ทางเลือกในการเข้าถึงเสียงมีมากขึ้น และยังเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งเหมาะกับช่วงเวลานี้ที่หลายคนต้องลดระยะห่างจากการออกไปเจอผู้คน และยังเผชิญหน้ากับความเคร่งเครียดจากปัญหาต่าง ๆ
เมื่อ “ความเงียบ” อาจไม่ได้ทำให้มีสมาธิเสมอไป
สำหรับหลาย ๆ คน “ความเงียบ” อาจเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการสร้างสมาธิ แต่สำหรับอีกหลายคนการเปิดอะไรฟังไประหว่างทำงาน กลับเป็นทางเลือกที่ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างลื่นไหล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟังเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง รวมไปถึงการฟังเสียงบรรยากาศต่าง ๆ อย่างเสียงน้ำตก หรือเสียงฝน ซึ่งการศึกษาจาก Journal of Consumer Research ได้ออกมารองรับว่า “เสียงรบกวน” ประมาณ 70 เดซิเบล เช่น เสียงบรรยากาศในร้านกาแฟนั้นเอื้อต่อการสร้างสมาธิและความคิดสร้างสรรค์ขณะทำงานได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับระดับเสียงที่ดังกว่าหรือการไม่มีเสียงไปเลย
หลังจากที่โควิด-19 ได้แนะนำให้เรารู้จักกับโลกของการเวิร์กฟรอมโฮม หลายคนก็ค้นพบว่าสภาพแวดล้อมในบ้านนั้น อาจไม่ได้เอื้อต่อการทำงานเสมอไป ทำให้สิ่งสำคัญนอกจากการลงมือทำงาน ก็คือการ “สร้างบรรยากาศ” ให้มีสมาธิในการทำงานด้วยนั้นเอง ซึ่งในปัจจุบันนอกเหนือจากการเปิดแอพพลิเคชันฟังเพลงต่าง ๆ แล้ว เรายังสามารถยกเสียงบรรยากาศของสถานที่ต่าง ๆ ที่เหมาะกับแต่ละคนมาไว้ใกล้ตัวเพื่อช่วยให้ผ่อนคลายและสร้างสมาธิระหว่างทำงานได้ไม่ยาก เช่น
- นั่งคาเฟ่แบบทิพย์ ๆ ที่ imissmycafe.com
เว็บไซต์ที่รวบรวมเสียงบรรยากาศภายในคาเฟ่เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงการชงกาแฟ เสียงบาริสต้า เสียงลูกค้าในร้าน หรือแม้แต่เสียงช้อนชนแก้วกาแฟ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในร้านกาแฟจริง ๆ นอกจากนั้นเรายังสามารถเลือกปรับแต่งได้ตามชอบใจว่าอยากให้มีเสียงอะไรอีกบ้าง และอยากให้แต่ละเสียงมีความดังหรือเบาแค่ไหน เว็บไซต์นี้ถูกพัฒนาขึ้นโดยเรแกน เฮนก์ (Reagan Henke) และ อีวาน คุก (Evan Cook) ผู้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเว็บไซต์ imissmybar.com ที่รวบรวมเสียงบรรยากาศภายในบาร์เอาไว้ ขณะที่ยังมีเว็บไซต์ coffitivity.com ที่รวมเสียงบรรยากาศของคาเฟ่จากที่ต่าง ๆ ไว้เช่นเดียวกัน
- คิดถึงออฟฟิศแต่อยากนั่งชิค ๆ อยู่ที่บ้าน imisstheoffice.eu
Kids Creative Agency จากประเทศเยอรมนี ได้ทำเว็บไซต์ที่รวบรวมเสียงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในออฟฟิศ เพื่อนำมาใช้ช่วยสร้างสมาธิให้กับผู้ที่ต้องทำงานที่บ้าน (และอาจจะคิดถึงที่ทำงาน) โดยสามารถเลือกรูปแบบของเสียงได้ตั้งแต่จำนวนของเพื่อนร่วมงานตั้งแต่ 0 – 10 คน และเสียงอุปกรณ์สำนักงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ ตู้กดน้ำ ไปจนถึงเครื่องถ่ายเอกสาร ซึ่งหน้าตาของเว็บไซต์นั้นถูกออกแบบมาอย่างเรียบง่ายแถมมีลูกเล่นให้เลือกได้เพลิน ๆ ทำให้ระหว่างการเลือกเสียงนั้นเหมือนกำลังได้เล่นเกมย่อม ๆ ก่อนทำงานเลยทีเดียว
- ออกแบบเสียงบรรยากาศด้วยตัวเองที่ moodly.site
เว็บไซต์ที่สร้างขึ้นโดยซาวิโอ มาร์ติน (Savio Martin) ดิเวลอปเปอร์วัย 14 ปีนี้ได้รวบรวมเสียงบรรยากาศแบบต่าง ๆ เอาไว้มากถึง 23 เสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงนกร้อง เสียงเปิดหนังสือ เสียงฝนตก เสียงใบไม้ เสียงลมพัด หรือเสียงการกดแป้นคีย์บอร์ด ซึ่งเราสามารถเลือกผสมเสียงต่าง ๆ และปรับความดังเบาของแต่ละเสียงได้ตามชอบใจ หรือจะเลือกชุดเสียงแบบสำเร็จจากเว็บไซต์ที่มีเสียงเพื่อช่วยสร้างสมาธิ (focus) เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน (productivity) หรือเพื่อผ่อนคลาย (relax) หรือจะให้เว็บไซต์สุ่มเสียงให้ก็ได้เช่นกัน
- Sound of the Forest เปิดวาร์ปไปฟังเสียงป่าจากรอบโลก
เสียงที่ช่วยให้มนุษย์รู้สึกผ่อนคลายได้ดีที่สุดเสียงหนึ่งก็คือเสียงธรรมชาติ และจะดีแค่ไหนถ้าหากเราสามารถเลือกฟังเสียงต้นไม้น้อยใหญ่และเสียงของสรรพสัตว์ทั้งหลายจากอีกฟากหนึ่งของโลกได้ เพียงแค่ไปที่ https://timberfestival.org.uk/soundsoftheforest-soundmap/ โปรเจ็กต์จากทีมผู้จัด Timber Festival เทศกาลดนตรีในป่าจากอังกฤษที่ได้จัดทำ “แผนที่เสียง” ซึ่งรวบรวมเสียงธรรมชาติจากผืนป่าทั่วโลกขึ้น โดยปัจจุบันมีเสียงที่ผู้คนทางบ้านส่งมาร่วมโครงการแล้วจากมากกว่า 50 ประเทศ (รวมถึงประเทศไทย) ซึ่งนอกจากจะเป็นคลังรวบรวมเสียงป่าที่แรกของโลกแล้ว เสียงธรรมชาติเหล่านี้ยังถูกนำไปต่อยอดเป็นบทเพลงในเทศกาล Timber Festival 2021 อีกด้วย
- White Noise สีของเสียงที่ช่วยให้ผ่อนคลายและหลับสบาย
เช่นเดียวกับที่สีเป็นคลื่นแสงชนิดหนึ่ง เสียงที่เราได้ยินนั้นก็มีลักษณะเป็นคลื่นเช่นกัน และถ้าหากการรวมแสงทุกสีในสเปกตรัมเข้าด้วยกันทำให้เกิดสีขาว การผสมรวมคลื่นเสียงอย่างเท่า ๆ กันจากทุกคลื่นความถี่ที่หูมนุษย์สามารถได้ยิน (ตั้งแต่ 20 เฮิรตซ์ ถึง 20,000 เฮิรตซ์) ก็จะทำให้เกิดสิ่งที่เราเรียกว่า White Noise หรือเสียงรบกวนสีขาวได้เช่นกัน โดยเสียงที่ได้จะคล้ายกับเสียงพัดลม หรือเสียงสัญญาณโทรทัศน์ ซึ่งสามารถช่วยในเรื่องการนอนหลับและผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
นอกจากเสียงสีขาวแล้ว ยังมีเสียงสีอื่น ๆ ที่ให้ผลลัพธ์คล้ายกัน เช่น Pink Noise เสียงสีชมพูที่มีคลื่นเสียงย่านเสียงต่ำมากกว่าเสียงสีขาว และ Brown Noise เสียงสีน้ำตาลที่มีคลื่นเสียงย่านเสียงต่ำมากขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม การจะเลือกใช้เสียงสีอะไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน และสำหรับบางคน Black Noise หรือการไม่มีเสียงอะไรเลย ก็อาจะเป็นตัวเลือกที่สร้างความผ่อนคลายได้เช่นกัน
ที่มา :
imissmycafe.com
imisstheoffice.eu
moodly.site
timberfestival.org.uk
บทความ “White noise (and pink and brown): The science behind the sounds” โดย Sandee LaMotte จาก edition.cnn.com
บทความ “Is Noise Always Bad? Exploring the Effects of Ambient Noise on Creative Cognition” โดย Ravi Mehta, Rui (Juliet) Zhu และ Amar Cheema จาก Journal of Consumer Research (www.jstor.org)
เรื่อง : ณัฐชา ตะวันนาโชติ