ได้เวลาสี่ขาผจญโลก อย่าปล่อยให้พื้นที่หลังบานประตูไกลเกินฝันของเจ้าตูบแสนรัก

หลังจากผ่านปรากฏการณ์ “อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน” กันทั่วโลก ต้นไม้ สายลม และบรรยากาศนอกบ้านที่แสนสดใสก็กลายเป็นสิ่งที่ใครหลายคนคงทั้งคิดถึง ทั้งมองเห็นคุณค่าความสำคัญมากขึ้น และคงไม่ใช่เพียงมนุษย์เท่านั้นแต่สัตว์เลี้ยงสี่ขาที่คอยอยู่เป็นเพื่อนคลอเคลียกันในช่วงเวลาที่ผ่านมา ก็คงคิดถึงความสนุกในวันวานที่ได้จากการเดินเล่นเช่นกัน 

สำหรับเราแล้ว การเดินสูดอากาศนอกบ้านอาจจะเป็นทางเลือกแสนง่ายดาย และเพียงแค่คิดตัดสินใจก็สามารถลุกไปออกได้ทันที แต่สำหรับ “เจ้าสี่ขา” ที่ไม่มีกุญแจบ้านแล้ว ก็จำเป็นต้องรอคอยเจ้าของที่รักจะเห็นสายตาอ้อนวอนและพาออกไปสัมผัสโลกกว้างเท่านั้น โดยผลสำรวจปัจจุบันนี้แสดงให้เห็นว่า เฉลี่ยแล้วเจ้าของสุนัขกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ไม่ได้พาสุนัขไปเดินเล่นเป็นประจำ ขัดกับความเห็นของผู้คนถึง 78 เปอร์เซ็นต์ที่คิดว่าสุนัขควรไปเดินเล่นวันละ 2 ครั้ง การปฏิบัติจริงที่ย้อนแย้งกับความเห็นนี้อาจเกิดจากปัจจัยส่วนตัว ทั้งตารางงานที่ยุ่งเหยิง ภาระอันหนักอึ้ง หรือความเกียจคร้านที่ต้องเผชิญเป็นนิตย์ แต่ถ้าหากเราจะสามารถสร้างช่วงเวลาที่จะพาสัตว์เลี้ยงแสนรักไปผจญโลกกว้างได้ ก็คงจะเป็นประโยชน์ทั้งสำหรับตัวน้องหมาเองและเจ้าของด้วย

©Maurice DT/Unsplash

เดินได้ เดินดี 
สุนัขแต่ละสายพันธุ์มีความต้องการในการออกกำลังต่างกันออกไป บ้างมาก บ้างน้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุ หรือสายพันธุ์ แต่โดยปกติแล้วสุนัขส่วนใหญ่ต้องการการออกกำลังกายอย่างน้อย 20-30 นาทีต่อวัน การพาสุนัขเดินเป็นประจำ จะช่วยให้สุนัขได้สำรวจสิ่งต่าง ๆ รอบตัว และเป็นประโยนชน์ทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต 

สุนัขในสหรัฐอเมริกาเกินกว่าครึ่งประสบภาวะน้ำหนักเกิน ซึ่งส่งผลต่อแนวโน้มการเป็นโรคอื่น ๆ ตามมา ทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคตับ โรคข้อเสื่อม รวมถึงภาวะต่อต้านอินซูลิน การเดินออกกำลังกายจึงถือว่าเป็นการป้องกันภาวะต่าง ๆ เพื่อสุขภาพที่ดีสมวัยของเพื่อนยากสี่ขา นอกจากนี้พฤติกรรมบางอย่างของสัตว์เลี้ยงที่ไม่น่ารักก็อาจขจัดไปได้ด้วยการกระตุ้นทั้งทางกายภาพและจิตใจ แม้ว่าเพื่อนยากของเราจะไม่สามารถพูดสื่อสารออกมาเป็นภาษา แต่สัญญาณหลายประการ (ที่เรามักรำคาญใจ) ก็อาจบ่งชี้ให้เห็นได้ว่าเขาต้องการที่จะออกกำลังมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการขุด การกระโดด การเห่าที่มากเกินไป หรือพฤติกรรมไม่เชื่อฟัง สัญญาณทั้งหลายนั้นอาจบอกได้ว่าสุนัขกำลังเบื่อและต้องการที่จะใช้พลังงานมากขึ้น ดังนั้นการเดินหรือพาออกกำลังกายก็จะช่วยลดพฤติกรรมเหล่านั้นและช่วยให้พวกเขาอยู่สงบ ๆ ตลอดทั้งวันได้ 

©Robson Hatsukami Morgan/Unsplash

ไม่เพียงแต่สุนัขที่จะได้รับประโยชน์ แต่ตัวเจ้าของที่มาใช้เวลาร่วมกับเพื่อนแสนรักก็ได้ประโยชน์จากกิจกรรมนี้ด้วย กลุ่มคนที่พาสุนัขเดินมีโอกาสที่จะออกกำลังกายถึงขั้นต่ำรายสัปดาห์มากกว่าถึง 34 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังมีแนวโน้มที่จะแข็งแรงและกระฉับกระเฉงกว่าด้วย ในทางกายภาพแล้วการเดินนับเป็นกิจกรรมที่ทำได้ทุกที่ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกระดูก กล้ามเนื้อ และข้อต่อ อีกทั้งยิ่งเดินมากเท่าไร เราก็จะยิ่งรู้สึกว่าร่างกายของเราเดินในระยะเดิมได้สบายมากขึ้นและอาจส่งผลให้เราตัดสินใจที่จะเดินนานขึ้นก็ได้ การพาสุนัขเดินยังช่วยปรับอารมณ์และลดอาการวิตกกังวลและซึมเศร้าได้ด้วย เนื่องจากผลการศึกษาพบว่า การใช้เวลาอยู่กับสุนัขอาจช่วยลดการหลั่งของฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียด ผู้ป่วยโรคซึมเศร้ายังได้ประโยชน์จากกิจวัตรการพาสุนัขออกเดินเล่นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ลูกหมาตัวน้อยที่ส่งสายตาเว้าวอนอาจช่วยกระตุ้นและเอาชนะต่อความเหนื่อยล้าทางกายที่เป็นหนึ่งในอาการของโรคนี้ และช่วยส่งผลดีต่อจิตใจจากการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินที่ได้มาจากกิจกรรมออกกำลังกายซึ่งจะช่วยเพิ่มพลัง สร้างอารมณ์ที่ดีขึ้น และยังช่วยเบี่ยงเบนความย้ำคิดด้านลบที่อาจเกิดขึ้นเมื่อเราคุดคู้อยู่ในห้องคนเดียว 

และข่าวดีของ “คนขี้เหงา” ก็คือการศึกษาชี้ว่าเจ้าของกว่า 31 เปอร์เซ็นต์จะรู้สึกเหงาน้อยลงเมื่อได้ไปเดินเล่นกับสัตว์เลี้ยง การพาน้องหมาไปเดินเล่นยังช่วยสร้างบทสนทนาที่มีความหมายและสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกว่าเดิมได้ด้วย ผู้ป่วยพิการที่มีสุนัขคู่ใจมีบทสนทนาที่มีความหมายมากกว่ากลุ่มที่ไม่มีถึง 4 เท่าต่อเดือน และยังสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับผู้คนที่พบเจอระหว่างไปเดินเล่นได้ลึกซึ้งและยาวนานมากกว่าถึง 52 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ผู้ที่ไม่มีสุนัขคู่ใจกลับพบเจอกับความสัมพันธ์ในลักษณะเดียวกันเพียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น การออกไปเดินเล่นกับน้องหมาจึงเป็นกิจกรรมอันดีที่จะช่วยเปิดโลกให้พบเจอกับผู้คนใหม่ ๆ เช่นเดียวกับตัวสุนัขเองที่มีโอกาสจะได้เจอเพื่อนร่วมทางสี่ขาเหมือนกัน

©meriç tuna/Unsplash

ฝากให้เราช่วยดูแล...อาชีพรับจ้างพาน้องหมาเดินเล่น
ด้วยไลฟ์สไตล์และปัจจัยหลายอย่าง บางครั้งการพาสุนัขคู่ใจไปเดินออกกำลังกายก็อาจไม่ง่ายเหมือนใจคิด ถึงอย่างนั้นสุนัขก็ควรที่จะได้สัมผัสอากาศนอกบ้านอยู่ดี ดังนั้นอาชีพ “รับจ้างพาสุนัขเดิน” (Dog Walker) จึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ธุรกิจบริการพาสุนัขไปเดินมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2020 อุตสาหกรรมนี้มีรายได้ถึงเกือบ 980 ล้านเหรียญสหรัฐ และเติบโตถึง 979.2 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2022 นี้ 

หน้าที่ของอาชีพรับจ้างพาสุนัขเดิน ไม่ได้มีเพียงการจูงสุนัขให้เดินไปตามทาง แต่ยังต้องรับผิดชอบดูแลสัตว์เลี้ยงของผู้ว่าจ้างตั้งแต่เตรียมออกจากประตู้บ้านจนถึงพากลับมาส่งอย่างปลอดภัย ความรับผิดชอบนี้ยังหมายรวมไปถึงต่อบุคคลอื่น ๆ เช่นหากเจ้าสี่ขาเกิดปวดหนักหรือเบาระหว่างทาง ก็ต้องได้รับการจัดเก็บทำความสะอาดให้เรียบร้อย นอกจากการพาสุนัขเดินเล่นแล้ว สิ่งหนึ่งที่นักรับจ้างพาสุนัขเดินจะต้องใส่ใจก็คือภาษากายของเจ้าสี่ขา เพื่อให้แน่ใจว่าน้องหมาในความรับผิดชอบจะอยู่ในสภาวะที่มีความสุข สบายใจ หรือไม่ได้มีปัญหาทางสุขภาพใด ๆ ที่ต้องรายงานให้เจ้าของทราบ สุนัขทุกตัวยังมีตารางข้อมูลการเดินที่ได้จัดทำและบันทึกไว้สำหรับประเมินแผนการดูแลแบบเฉพาะตัว ทั้งยังอาจมีหน้าที่รวมไปถึงการให้อาหาร อาบน้ำ และตัดแต่งขนด้วย

ในด้านของรายได้นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อาทิ ชั่วโมงประสบการณ์ ประเภทของสุนัข รวมถึงจำนวนชั่วโมงทำงาน แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 36,000 เหรียญสหรัฐต่อปี (17.31 เหรียญสหรัฐต่อชั่วโมง หรือราว 600 บาทต่อชั่วโมง) โดยมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงทศวรรษหน้า และสามารถเป็นได้ทั้งงานที่ติดต่อกับลูกค้าเองโดยตรงหรือหากยังไม่มั่นใจในเรื่องของคอนเน็กชันก็อาจสมัครเข้าทำงานกับบริษัทที่ให้การดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะก็ได้ 

ทั้งนี้ การจะเป็นนักรับจ้างพาสุนัขเดินนั้น ต้องมีคุณสมบัติที่เฉพาะเหมาะสมไม่ต่างจากงานอื่น ๆ โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือต้องมีความรัก ความเข้าใจ ความอดทนให้กับน้องหมา และควรที่จะมีทักษะการดูแลเจ้าสี่ขาเบื้องต้น ก่อนที่จะลงสนามจริง นักรับจ้างพาสุนัขเดินจะต้องได้รับการรับรองจากสมาคมผู้เชี่ยวชาญนักรับจ้างพาสุนัขเดินแห่งชาติ (National Association of Professional Dog Walkers หรือ NAPDW) ที่จะต้องผ่านทั้งการอบรมออนไลน์ การสอบข้อเขียน และการประเมินภาคปฏิบัติ เพื่อให้แน่ใจว่าจะดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักของทุกคนได้ดีและปลอดภัย

©Joe Cleary/Unsplash

ล้ำไปอีกขั้นกับหุ่นยนต์พาเดินเล่น
หรือในอนาคตหุ่นยนต์จะเข้ามามีบทบาทกับชีวิตไม่เว้นกระทั่งการจูงหมาพาเดินเล่น! โตโยต้าได้จดสิทธิบัตรแนวคิด Robotic Platform ที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงแสนรักให้เดินทางตามลำพังได้แบบไม่จำเป็นต้องพึ่งพามนุษย์ ภาพตัวอย่างที่แสดงฟังก์ชันของเครื่องกลนี้ มีลักษณะคล้ายรถเข็นท้องแบนที่มีพื้นที่พอสำหรับน้องหมาและคนให้ขึ้นไปยืนอยู่ได้ ในเบื้องต้นหุ่นยนต์นี้มีหน้าที่พื้นฐานคือการพาสุนัขออกไปเดินเล่นตามลำพังผ่านเส้นทางที่ได้กำหนดไว้ แต่ถ้าหากเจ้าของต้องการที่จะออกไปรับลมชมวิวโดยไม่ต้องเหนื่อยที่จะเดินจูงสุนัขให้วุ่น ก็สามารถยืนบนตัวเครื่องและปล่อยให้เครื่องขับเคลื่อนต่อไปได้ ซึ่งในทางหนึ่งก็นับเป็นผลดีสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยสะดวกในการเคลื่อนที่ด้วยตัวเองด้วย 

ในระหว่างการเดินทาง ตัวเครื่องยังมีหน้าที่รับผิดชอบในกรณีที่สุนัขขับถ่าย ผ่านแนวทางในอุดมคติว่าเจ้าหุ่นยนต์จะสามารถสังเกตได้ว่าเวลาไหนที่สุนัขต้องการปลดทุกข์และจะหยุดพักให้พวกมันทำกิจให้เสร็จสรรพ จากนั้นจะมีแนวทางการจัดการทั้งการพ่นน้ำกำจัดร่องรอยปัสสาวะและเก็บอุจจาระให้เรียบร้อยเช่นกัน นอกจากนี้หากสุนัขของเราเจอสิ่งล่อตาล่อใจระหว่างการเดินทางจนทำให้ขาทั้งสี่เริ่มที่จะเบนทิศทางออกไปจากเส้นทางหลัก ตัวโปรแกรมก็ได้จัดเตรียม “โหมดวินัย” ที่จะล็อกสายจูงจนกว่าจะแน่ใจว่าสุนัขสงบลงและกลับเข้าสู่ความเร็วในการเดินที่ปกติอีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่กล่าวมาก็เป็นแค่ไอเดียการจดสิทธิบัตรที่ยังไม่ได้มีการลงมือทำจริง ดังนั้นจึงอาจต้องจับตามองต่อไปว่า แนวคิดทั้งหลายเหล่านี้จะถูกปรับเปลี่ยนหรือดำเนินการไปอย่างไรบ้าง เพื่อให้มีความเป็นไปได้ในชีวิตจริงมากขึ้น เพราะเรื่องของชีวิตนั้นทั้งเปราะบางและละเอียดอ่อน การทำงานตามระบบเบื้องต้นของเครื่องกลจึงอาจไม่เพียงพอที่จะทะนุถนอมหรือตัดสินใจในสิ่งที่ไม่อาจควบคุมได้ และยังคงต้องใช้เวลาในการพัฒนาต่อไป

©Annie Spratt/Unsplash

ดูเหมือนว่าภาพจำของการพาสุนัขเดินเล่นในพื้นที่นอกบ้านจะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เมื่อมีมิติอื่น ๆ ที่ทยอยเข้ามาขยายโลกการเดินทางของเจ้าตูบให้แปลกใหม่มากขึ้น แต่ไม่ว่าอย่างไร สิ่งหนึ่งที่ต้องจำและควรทำให้เป็นกิจวัตรคือสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราต้องได้รับทั้งโอกาสในการสูดอากาศนอกบ้าน และการพบปะกับเพื่อนใหม่และบรรยากาศดี ๆ โดยผู้เป็นเจ้าของเองที่จะต้องหยิบยื่นโอกาสนั้นอย่างสม่ำเสมอ เพราะไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ต่างก็มีความรู้สึก และเราคงไม่อยากให้เพื่อนรักของเราต้องเผชิญกับความรู้สึกของการอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ อย่างที่เราเคยรู้สึกแน่ 

ที่มา :
บทความ “Toyota patents dog-walking autonomous vehicle” โดย Ben Hsu จาก autoblog.com
บทความ “Toyota Patents Dog Walking Robot That Can Pick Up After Your Pet” จาก technabob.com
บทความ “Toyota Patents Dog-Walking Robot And Can Pick Up A Pet's Poop” โดย Chris Bruce จาก motor1.com
บทความ “Dog owners are happier than those without a four-legged companion: study” โดย Rob Knight และ The Sun จาก nypost.com 
บทความ “Health Benefits of Walks with Your Dog” จาก helpguide.org
บทความ “What Does a Dog Walker Do?” จาก climbtheladder.com
บทความ “10 Dog Walking Statistics & Facts for 2022: How Much Do People Walk Their Dogs?” โดย Hallie Roddy จาก petkeen.com 
บทความ “When is walk your dog month?” จาก petguard.co.uk 

เรื่อง : บุษกร บุษปธำรง