Generation 2023 เจาะใจทุกเจนเพื่อการตอบโจทย์ที่ตรงจุด

“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” คือคำกล่าวที่เป็นอมตะทุกยุคทุกสมัย Creative Thailand ขอชวนทุกคนมาอัปเดตอินไซต์และไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคทุกเจเนอเรชันในปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง เพื่อสร้างความเข้าใจอย่างรอบด้าน รวมไปถึงการสร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์ตรงใจแบบไม่ต้องลุ้น

Baby Boomer (1946-1964) 
กลับสู่เส้นทางค้นหาความหมายของชีวิต ใกล้ชิดกับสื่อออนไลน์ และซื้อขายผ่านโลกอินเทอร์เน็ต

• ผลพวงจากการระบาดของไวรัสที่ผ่านมาทำเอาเหล่าเบบี้บูมเมอร์หันเหจากเทรนด์เดิมที่เคยไม่ต้องการเกษียณตัวเองจากกงานประจำสู่การหันมาค้นหาความหมายจริงของชีวิต สร้างอาชีพบั้นปลายที่ยืดหยุ่นขึ้น เช่น งานไม่เต็มเวลา รวมถึงหาคอนเน็กชันใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์
• WGSN เผยว่าบูมเมอร์ 75% ไม่อยากเป็นภาระลูกหลาน ในขณะเดียวกัน ก็ไม่ชอบให้ลูกหลานกำหนดขอบเขตการใช้ชีวิตมากนัก 40% ของรายการ Bucket List ที่บริษัทประกันมักพบเจอ คือการไปท่องเที่ยวในที่ที่ไม่เคยไป อย่างไม่เร่งรีบ ปลดปล่อยความเป็นตัวเองได้เต็มที่ โดยไร้ซึ่งฐานะอย่างผู้สูงอายุหรือตายาย ที่ทำให้รู้สึกเป็นภาระ
• มีความยินดีที่จะเรียนรู้แอปฯ ที่จะเปิดโอกาสให้ได้พบกับเพื่อนยากและเพื่อนใหม่
• บูมเมอร์อัปเดตข่าวจากช่องทางสื่อออนไลน์ ใช้เวลากับวิดีโอออนไลน์ถึง 54% จากช่องทาง Facebook และ YouTube เป็นหลัก และ Tiktok ก็เข้ามาช่วงชิงพื้นที่ตรงนี้สำเร็จ โดยวิดีโอนี้เองที่มีผลต่อตลาดสำหรับผู้สูงอายุในระยะยาว
• เจนนี้ยังนิยมการซื้อของออนไลน์ถึง 90% โดยเฟซบุ๊กนับเป็นช่องทางยอดนิยม การโพสต์รายละเอียดและราคาให้ชัดเจนจะช่วยให้ชนะใจคนเจนนี้ได้มากกว่าการกดลิงก์หรือถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านกล่องข้อความที่ดูไม่ค่อยน่าเชื่อใจ

Generation X (1965-1980)
เดอะแบกและช่างเชื่อม ผู้เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความภักดี แม้ในวันที่ใจเริ่มไหวหวั่น

• ในช่วงที่ผ่านมาเจนเอ็กซ์ต้องเผชิญหน้าและรับมือกับทั้งด้านการทำงาน ดูแลครอบครัว พร้อม ๆ กับการรักษาสุขภาพกายและใจให้แข็งแรง
• เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาด การให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายและความประหยัด จึงถือเป็นสิ่งแรกที่เจนเอ็กซ์พึงระลึกอยู่เสมอ ชาวเจนเอ็กซ์เกือบครึ่งเผชิญความท้าทายของการลดค่าใช้จ่ายให้เหลือน้อยที่สุด  และยังกังวลกับเรื่องการเงินของตนเองในอนาคต รู้สึกสูญเสียความมั่นใจเรื่องความสามารถในการมีชีวิตวัยเกษียณที่สุขสบาย
• อย่างไรก็ตามชาวเจนเอ็กซ์ยังคงได้รับการขนานนามว่าเป็นเจนที่มีความภักดีต่อแบรนด์สูงสุด ด้วยเหตุผลเบื้องหลังคือความโปร่งใส ความเรียบง่ายที่ สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกและสื่อสารถึงความทรงจำที่งดงาม
• มีการเริ่มใช้ประโยชน์จากเครื่องมือดิจิทัลใหม่ ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนแนวทางในการเชื่อมต่อระหว่างสมาชิกในครอบครัวและแบรนด์สินค้า ทั้งยังมีแผนจะเชื่อมต่อกับเหล่าเพื่อนฝูงและครอบครัวอีกครั้ง ด้วยการจัดทริปแบบรียูเนียนจากช่วงเวลาที่ห่างหายไปกว่า 2 ปี
• ความทรงจำที่มีคุณค่าในอดีตคือหนึ่งในสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจสำหรับเจนเอ็กซ์  ด้วยเหตุนี้ช่วงการแพร่ระบาดที่ผ่านมา เจนเอ็กซ์จึงมักย้อนคืนสู่วันเก่า ๆ ผ่านหนังสือ หรือรายการโทรทัศน์

Millennial (1980-1995)
กับการเติบโตไปอีกขั้น ทั้งยังเน้นหาบาลานซ์ ผสานการใช้เทคโนโลยีให้มีประโยชน์

• เรียกได้ว่านี่คือช่วงเวลาเตรียมพร้อมเข้าสู่วัยกลางคนของเจนมิลเลนเนียล และการเติบโตเป็นผู้ใหญ่อีกขั้นมาพร้อมกับความกดดันรอบด้าน
• คนส่วนใหญ่เริ่มต้นค้นหาตนเองอีกครั้งในวัยย่างเข้า 40 ปี และยังคงยึดถือหลักการ Work-Life Balance ด้วยการหันมาใส่ใจสุขภาพร่างกาย สุขภาวะทางใจ รวมถึงการเลือกที่พักอาศัยที่ปลอดภัย ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และโปรแกรมออกแบบการใช้ชีวิตจึงเข้ามามีบทบาท
• ชาวมิลเลนเนียลมีพฤติกรรม Digital Dualism คือการใช้ชีวิตออนไลน์และออฟไลน์ควบคู่กัน เพราะเชื่อว่าชีวิตคนเราไม่สามารถตัดขาดจากโลกออนไลน์ได้ จึงเลือกที่จะปรับสมดุลเข้าหามันแทน
• การก้าวเข้าสู่การเป็นแรงงานสำคัญของบริษัท ทำให้ชาวมิลเลนเนียลส่วนใหญ่ ต่างคาดหวังให้องค์กรพัฒนาเครื่องมือการทำงานที่ทันสมัย และมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เข้ามาเพิ่มศักยภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ
• ชาวมิลเลนเนียลกว่า 76% ตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่ก็ถูกจำกัดด้วยค่าใช้จ่ายครองชีพรวมถึงชีวิตที่เร่งรีบเกินจะเลือกสรร แบรนด์ต่าง ๆ จึงเข้ามามีบทบาทในจุดนี้ โดยแน่นอนว่าชาวมิลเลนเนียลก็ยินดีจ่ายให้ผลิตภัณฑ์ที่คิดมาเพื่อความยั่งยืนอยู่แล้ว
• คุณแม่ชาวมิลเลนเนียลคือสุดยอดความสตรองแห่งยุคจากช่วงโรคระบาดที่ผ่านมา แบรนด์ที่ตรงโจทย์จึงไม่จำเป็นต้องสื่อภาพลักษณ์ของแม่ที่สมบูรณ์แบบ แต่ต้องสามารถจัดการกับความยุ่งเหยิงและเติมกำลังใจดี ๆ ให้กันได้
• TikTok และ Instagram กลายเป็นช่องทางสำหรับแม่ ๆ หลายคนที่ใช้หลีกหนีจากความตึงเครียด ทั้งยังเป็นสื่อที่เปรียบเสมือนแหล่งข้อมูลชั้นดีควบคู่ไปกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

Generation Z (1996-2012)
รุ่นใหม่แนวทางใหม่ ชัดเจน ฉับไว พร้อมไฟต์ทุกสถานการณ์

• WGSN ระบุว่า 52% ของชาวเจนซีเชื่อในศักยภาพการเรียนรู้ระยะยาว เรียนเพิ่มได้ทุกเมื่อ ชาวเจนซีได้ชื่อว่า "เจนแห่งการเรียนรู้ด้วยตัวเอง" ผ่านแพลตฟอร์มยอดฮิต เช่น Google และในปัจจุบัน Tiktok ก็ได้เข้ามาแย่งชิงพื้นที่การเรียนรู้จาก YouTube ด้วย
• อาชีพในฝันของเจนซีส่วนใหญ่คือการสร้างรายได้จากโซเชียลมีเดียและแพลตฟอร์มออนไลน์ ทั้งนี้ยังมีแนวคิด Polywork หมายถึงการมีหลายอาชีพหลายทักษะ ไม่ยึดติดกับอาชีพใด ใช้การสะสมทักษะอาชีพเป็นเป้าหมายในการค้นหาตนเอง
• เจนซีคือกลุ่มคนที่ถูกยกเลิกทริปมากที่สุดถึง 82% ในช่วงโรคระบาด เมื่อวิกฤตผ่านพ้นไปแล้วพวกเขาจึงไม่รีรอที่จะออกไปเยี่ยมเยียนโลกในมุมต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงชุมชนและวัฒนธรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และดื่มด่ำประสบการณ์ที่ไม่คุ้นเคย แม้ทริปนั้นจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม
• 90% ของกลุ่มเจนซีสนใจแบรนด์สินค้าที่แตกต่างและไม่เขินอายที่จะเลือกใช้ ทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องการสนับสนุนแบรนด์ที่โปร่งใสในจริยธรรมการค้าขาย โดยสามารถหันหลังให้กับแบรนด์ที่เคยชื่นชอบได้ทุกเวลา หากแบรนด์เหล่านั้นมีภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปจากที่ตนคาดหวังไว้ 

Alpha (2010-2024)
วัยแสบนิวเจน ผู้แบ่งบานท่ามกลางความท้าทายในยุคดิจิทัลออนไลน์และนิวนอร์มัล 

• McCrindle ระบุว่าในปี 2025 เจเนอเรชันอัลฟาจะมีจำนวนมากกว่า 2 พันล้านคนทั่วโลก ถือเป็นเจเนอเรชันที่มีจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งยังเป็นเจนที่ 2 ต่อจากเจนซีที่เป็นชาวดิจิทัลโดยกำเนิด ชาวเจนอัลฟ่านี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เจนแห่งการคิดไอเดียใหม่"
• โควิด-19 ส่งผลต่อเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และจิตใจ โดยทิ้งทั้งร่องรอยและบาดแผลไว้ให้กับคนรุ่นใหม่ การให้คุณค่ากับครอบครัวจะเป็นสิ่งสำคัญมากขึ้นสำหรับการเติบโตของเจนอัลฟา
• เทคโนโลยีสุดล้ำได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอย่างเต็มขั้น ทำให้ของเล่นของวัยแสบที่มีทั้ง AI และ IoT เป็นส่วนประกอบ ล้ำยุคเกินกว่าใคร ทั้งยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจต่าง ๆ แบ่งบานใน Metaverse และยังพ่วงมาด้วยการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีแบบใหม่ ๆ ในอนาคต
• เจนอัลฟาเติบโตอย่างรวดเร็วและค่อนข้าง “เกินวัย” มาพร้อมกับความฉลาดทางอารมณ์ที่ดีเยี่ยม มีความสามารถในการตระหนักถึงประเด็นระดับโลกที่เกิดขึ้นรอบตัว และรู้จักที่จะตั้งถามคำถามยาก ๆ กับคนที่พวกเขารู้จัก
• พวกเขาก็เริ่มรู้ถึง Digital Footprint ของตนเองผ่านโปรไฟล์ของผู้ปกครอง และอ่อนไหวต่อความเป็นส่วนตัวอย่างมาก มีความต้องการนำเสนอตัวตนที่แตกต่างตามแต่ละแพลตฟอร์ม