ทางเลือกหลากหลาย กับโรงเรียนทางเลือก ก้าวแรกของการเตรียมพร้อม เพื่อก้าวต่อไปที่มีคุณภาพ
Technology & Innovation

ทางเลือกหลากหลาย กับโรงเรียนทางเลือก ก้าวแรกของการเตรียมพร้อม เพื่อก้าวต่อไปที่มีคุณภาพ

  • 23 Jan 2023
  • 3532

เพราะเด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า การจะก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่ที่ดี เติบโตอย่างมั่นคงได้นั้น นอกจากพ่อแม่และครอบครัวจะเป็นรากฐานสำคัญแล้ว “โรงเรียน” ยังเป็นปัจจัยหลักที่มีบทบาทในการหล่อหลอม กล่อมเกลา ฝึกฝน เด็กแต่ละคนให้เติบโตขึ้นเป็นคนที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต


jcomp / Freepik

นอกจากนี้ โรงเรียนยังเป็นประตูด่านแรกในการเข้าสังคม เป็นจุดเริ่มต้นการสร้างสัมพันธ์ของเด็ก ๆ ที่จะเติบโตไปด้วยกัน โรงเรียนจึงเปรียบได้กับโลกใบเล็กที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายทั้งเรื่องของวิชาการและวิชาชีวิตให้ได้เรียนรู้ ฝึกฝน และนำออกไปใช้จริงในโลกใบใหญ่

เพราะก้าวแรกสำคัญเสมอ การเลือกโรงเรียนจึงมีความสำคัญ ปัจจุบันมีโรงเรียนที่มีหลักสูตรการเรียนการสอนหลากหลายรูปแบบให้เลือกเรียนตามความพึงใจและความสะดวกของพ่อแม่กับการเลือกสังคมแรกในโลกใบเล็กของลูก


โรงเรียนปัญโญทัย ภาพ : Facebook/Panyotai

Waldorf: การเรียนรู้แบบองค์รวม
Waldorf คือหนึ่งรูปแบบการศึกษาที่เน้นการบูรณาการระหว่างวิชาการในห้องเรียน ร่วมกับกิจกรรมหรือแนวทางให้ความรู้ที่ส่งเสริมให้เกิดแนวความคิดและจินตนาการ ผสานกันจนเกิดการพัฒนาแบบองค์รวมและสมดุล ทั้งทางร่างกาย ปัญญา และจิตใจ ให้เด็ก ๆ ได้มีพัฒนาการในทุกด้านอย่างเหมาะสม

ปัจจุบันโรงเรียนที่ใช้แนวการสอนแบบ Waldorf ได้แพร่ขยายไปกว่า 60 ประเทศทั่วโลก โดยแนวคิดการสอนแบบ Waldorf ถูกพัฒนาขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 โดย รูดอล์ฟ สไตเนอร์ (Rudolf Steiner) นักปรัชญา นักวิทยาศาสตร์ และนักปฏิรูปสังคมชาวออสเตรีย ซึ่งมีหัวใจสำคัญแบ่งเป็นหลัก 3H ได้แก่ Head, Heart และ Hands คือการช่วยให้ได้ใช้ความคิด ได้เข้าใจความรู้สึก และได้ลงมือทำอย่างสร้างสรรค์ ทั้งยังมุ่งหวังให้เกิดการกระตุ้นร่างกาย อารมณ์ พฤติกรรม ความรู้ความเข้าใจ ไปจนถึงจิตวิญญาณ ให้เกิดความต้องการในการเรียนรู้ตลอดชีวิต เน้นการดึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวให้ออกมาใช้งานได้อย่างเต็มที่ ฝึกให้มีความสามารถที่จะวางแผนแนวทางเป้าหมายของตัวเองได้ตามที่ต้องการและเหมาะกับตัวเองที่สุด ด้วยการเน้นบรรยากาศการเรียนการสอนแบบใกล้ชิดธรรมชาติ เช่น การเล่นของเล่นที่เป็นวัสดุจากธรรมชาติ งดการใช้หน้าจอทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอโทรศัพท์ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ ทั้งที่บ้านและโรงเรียน ได้ออกไปเรียนรู้นอกสถานที่ เน้นการลงมือทำ โดยได้ออกแบบหลักสูตรให้เหมาะกับการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในแต่ละช่วงวัย ได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงควบคู่ไปกับการเรียนในห้องเรียน

ความน่าสนใจอีกอย่างหนึ่งของโรงเรียนหลักสูตร Waldorf คือ ค่าเทอมหรือค่าบำรุงการศึกษาส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ที่ครอบครัวชนชั้นกลางสามารถจ่ายได้แบบไม่เหนื่อยนัก สำหรับโรงเรียนเปิดสอนหลักสูตรแนวการศึกษาในแบบ Waldorf ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่

  • โรงเรียนอนุบาลบ้านรัก ตั้งอยู่เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล

  • โรงเรียนปัญโญทัย ตั้งอยู่เขตสายไหม กรุงเทพฯ เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษา

  • โรงเรียนศิริ์รัถยา ตั้งอยู่เขตสายไหม กรุงเทพฯ เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล จนถึงประถมศึกษา

  • โรงเรียนไตรพัฒน์ ตั้งอยู่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษา

  • โรงเรียนแสนสนุกไตรทักษะ บางมด ตั้งอยู่เขตประชาอุทิศ กรุงเทพฯ เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษา


โรงเรียนปัญโญทัย ภาพ : Facebook/Panyotai

Montessori: การเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างอิสระ
แนวทางการเรียนการสอนแนว Montessori จะให้เด็กเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ อิงกับพัฒนาการและความต้องการตามธรรมชาติของเด็ก เน้นการพัฒนาทักษะต่าง ๆ จากความสามารถเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคน ให้เด็กได้ตั้งคำถาม เรียนรู้ ลงมือทำด้วยตัวเองอย่างอิสระ ทำให้เด็ก ๆ เติบโตเป็นคนกล้าคิด กล้าตัดสินใจ เมื่อเจอปัญหาในอนาคตเขาจะสามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองอย่างสร้างสรรค์

ปัจจุบันมีโรงเรียนแนว Montessori ให้เลือกมากมายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศไทย สำหรับโรงเรียนที่เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนด้วยแนวทาง Montessori ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่

  • โรงเรียนอนุบาลยุวมิตร ตั้งอยู่เขตหนองแขม กรุงเทพฯ เปิดสอนระดับชั้นเตรียมอนุบาล จนถึงอนุบาล 3

  • โรงเรียน Kornkaew Montessori School ตั้งอยู่เขตดุสิต กรุงเทพฯ เปิดสอนระดับชั้นเตรียมอนุบาล จนถึงอนุบาล 3

  • โรงเรียนสาธิตปทุม ตั้งอยู่อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เปิดสอนระดับชั้นอนุบาล จนถึงประถมศึกษา


โรงเรียน ณ ดรุณ ภาพ :  ณ ดรุณ

Reggio Emilia: การเรียนรู้ที่เกิดจากปฏิสัมพันธ์และสภาพแวดล้อม
แนวการสอนแบบ Reggio Emilia คือแนวการสอนของโรงเรียนที่มีความเชื่อว่าสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่โดยรอบส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก อีกทั้งยังเชื่อว่าเด็กแต่ละคนมีศักยภาพติดตัวมาตั้งแต่เกิด ครู พ่อแม่ เป็นเพียงผู้ชี้ทาง หลักสูตรนี้เน้นทักษะด้านกระบวนการความคิด และได้เรียนรู้จากการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบตัวผ่านการทำโครงการต่างๆ ตามหัวข้อที่เด็กสนใจ ได้ออกไปค้นคว้าหาความรู้จากสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์จริง ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับความสนใจของเด็ก สิ่งที่การสอนแบบ Reggio Emilia แตกต่างจากแนวทางอื่นคือ พ่อแม่สามารถมีส่วนร่วมในกิจกรรมนั้นๆ ด้วย 


โรงเรียน ณ ดรุณ ภาพ : ณ ดรุณ

เด็กๆ ที่เรียนโรงเรียนการสอนแบบ Reggio Emilia จะมีความมั่นใจในตัวเองที่จะสื่อสารสิ่งที่คิดให้ผู้อื่นเข้าใจ เป็นคนมีน้ำใจ รู้จักการช่วยเหลือเกื้อกูล มีอิสระทางความคิดอย่างเต็มที่ สามารถใช้เวลาพัฒนาตัวเองได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยโรงเรียนที่เปิดหลักสูตรการเรียนการสอนแนวนี้ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล ได้แก่

  • โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ ตั้งอยู่เขตยานนาวา กรุงเทพฯ เปิดสอนระดับเตรียมอนุบาล จนถึงอนุบาล 3

  • โรงเรียน ณ ดรุณ ตั้งอยู่เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เปิดสอนระดับอนุบาล จนถึงประถมศึกษา

  • โรงเรียน D-Prep International School ตั้งอยู่อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เปิดสอนระดับเตรียมอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษา


โรงเรียนเพลินพัฒนา ภาพ : plearnpattana.ac.th

วิถีพุทธ: พัฒนาเด็กด้วยศีล สมาธิ และปัญญา
จากการที่ประเทศไทยนับถือศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลัก แนวการสอนในแบบวิถีพุทธจึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่น่าสนใจ โดยจะเป็นการพัฒนาผู้เรียนตามหลักพุทธธรรมหรือองค์ความรู้ที่เป็นคำสอนในพระพุทธศาสนา ด้วยการสอนให้เด็กเข้าใจความจริงของชีวิต พัฒนาด้านศีล สมาธิ ปัญญา รู้จักวิธีปฏิบัติเพื่อพัฒนาจิตใจ เป็นการบูรณาการพุทธธรรมในการเรียนรู้ และกระบวนการเรียนรู้ด้วยตัวเองแบบองค์รวม

เด็ก ๆ ที่เรียนในโรงเรียนแนววิถีพุทธจะได้รับการศึกษาที่อยู่บนพื้นฐานของความจริงตามธรรมชาติ ได้กิน อยู่ ดู ฟังให้เป็น และได้ฝึกการใช้ปัญญาให้เกิดประโยชน์ ทั้งยังได้เรียนรู้วิธีการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คน ธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นกัลยาณมิตรตามหลักทางสายกลาง ซึ่งโรงเรียนแนววิถีพุทธที่เปิดสอนในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล ได้แก่ 

  • โรงเรียนทอสี ตั้งอยู่เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดสอนระดับเตรียมอนุบาล จนถึงประถมศึกษา

  • โรงเรียนเพลินพัฒนา ตั้งอยู่เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ เปิดสอนระดับเตรียมอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษา


โรงเรียนเพลินพัฒนา ภาพ : plearnpattana.ac.th

Neo-Humanist Education: พัฒนาศักยภาพที่แฝงเร้น
Neo-Humanist Education อีกหนึ่งแนวทางการสอนของโรงเรียนในปัจจุบัน หลักสูตรนี้มีความเชื่อว่ามนุษย์คือสิ่งมีชีวิตที่ต้องการพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด การสอนแนวนี้ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและการศึกษาในวัยเด็กอย่างมาก โดยรูปแบบการเรียนจะสอดคล้องกับหลักการดังนี้

หลักคลื่นสมองต่ำ คลื่นสมองยิ่งต่ำ ประสิทธิภาพในการทำงานของคนยิ่งมีมากขึ้น แสดงถึงความสงบในใจ การเป็นคนอารมณ์ดี มีความใจเย็น มีความสร้างสรรค์สูง มีสมาธิแน่วแน่

หลักการประสานของเซลล์สมอง เป็นแนวทางที่มีเชื่อว่าความฉลาดสร้างได้ เพราะความฉลาดเกิดจากเซลล์สมองประสานเข้าด้วยกัน และจะขยายตัวได้ดีเมื่อมือกับเท้ามีการทำงานมาก จึงเน้นให้มีการเคลื่อนไหว

หลักภาพพจน์ของตัวเอง วัยเด็กคือช่วงเวลาที่สามารถแต่งเติมอะไรได้ง่าย การปลูกฝังจิตใต้สำนึกด้านบวกจึงมีความสำคัญ หากสิ่งที่บันทึกมีแต่เรื่องไม่ดี เมื่อเติบโตขึ้นจะส่งผลให้มีภาพพจน์ต่อตัวเองเป็นลบ รวมไปถึงมีพฤติกรรมที่เป็นลบด้วย

การเรียนการสอนในแนวทาง Neo-Humanist Education นี้จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งสามารถแสดงทางร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ โดยจะเป็นคนที่มีความสุขในชีวิต มีความภาคภูมิใจในตัวเอง และเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการพึ่งพาตนเอง โรงเรียนที่ใช้แนวทางการสอนนี้ที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และพื้นที่ใกล้เคียง ได้แก่

  • โรงเรียนอมาตยกุล ตั้งอยู่เขตบางเขน กรุงเทพฯ เปิดสอนระดับอนุบาล จนถึงมัธยมศึกษา

  • โรงเรียนภักดีพรรณ ตั้งอยู่อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เปิดสอนตั้งแต่แรกเกิด จนถึงประถมศึกษา

หลากหลายทางเลือกเพื่อการเติบโตอย่างมีคุณภาพ
นอกจากนั้นยังมีโรงเรียนที่ใช้แนวการสอนซึ่งมีความสนใจให้เลือกตามความเหมาะสมอีกหลากหลายหลักสูตร อาทิ การสอนแบบ Project Approach ซึ่งเป็นการสอนเน้นในเรื่องของ Learning to Learn และ Learning to Think ให้เด็กเลือกทำโครงการ สืบค้นข้อมูลในเรื่องที่ตัวเองสนใจ แนวการสอนแบบ High Scope การเรียนการสอนที่เน้นการพัฒนาศักยภาพของเด็กผ่านการลงมือ ให้เด็กได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ แนวการสอนแบบ พหุปัญญา หรือ Multiple Intelligence ที่เน้นการพัฒนาและเสริมสร้างทักษะในด้านต่าง ๆ ที่มีอยู่ในตัว โดยมีผู้เชี่ยวชาญในปัญญาด้านต่าง ๆ มาช่วยสังเกตว่าเด็กมีความโดดเด่นของปัญญาในด้านใดบ้าง แนวการสอนแบบภาษาธรรมชาติ หรือ Whole Language Approach แนวการสอนที่ใช้การสอนภาษาแบบธรรมชาติ ให้เด็กได้เรียนรู้การใช้ภาษาอย่างรอบด้าน เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง สัมผัสประสบการณ์ทางภาษาในชีวิตประจำวันอย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยให้เด็กได้รับการพัฒนาทางภาษาอย่างครบทุกมิติ


Pixabay / Pexels

ไม่ว่าจะเป็นแนวทางการสอนในรูปแบบทางใด สุดท้ายปลายทางของทุกหลักสูตรคือการพัฒนาให้เด็กในวันนี้ ได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีคุณภาพในวันข้างหน้า เพื่อการเตรียมพร้อมในการก้าวออกไปสู่โลกใบใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์

ที่มา : บทความ “‘โรงเรียนทางเลือก’ แนวทางการศึกษายุคใหม่ที่พ่อแม่ต้องรู้” จาก cottonbaby.co
บทความ “วอลดอร์ฟ (Waldorf) คืออะไร?” จาก wondervalley.ac.th
บทความ “การเรียนการสอนแบบมอนเตสซอรี่มีที่มาอย่างไร?” จาก anantaa.ac.th
บทความ “Reggio Emilia” จาก www.nadaroon.ac.th
คู่มือ “โรงเรียนวิถีพุทธ (Buddhist Oriented School) นวัตกรรมทางการศึกษา) เพื่อความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์” จาก vitheebuddha.com
บทความ “รู้จักโรงเรียนแนวการสอนแบบนีโอ-ฮิวแมนนิสต์” จาก rakluke.com

เรื่อง : นพรัตน์ จิตพงศ์สถาพร