
เรียนรู้แบบใหม่ฉบับปี 2025 มอบประสบการณ์สมจริงยิ่งกว่า ให้ความรู้ออกแบบได้
หาก “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” อะไร ๆ จึงสามารถเกิดขึ้นได้ในยุคนี้ ยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญและกำลังขับเคลื่อนโลกให้ไปสู่ประสบการณ์ที่ไร้ขีดจำกัด พร้อมโอบรับการเข้าสู่ยุคของเจนเบต้าที่เกิดมาพร้อมกับความทันสมัยและมีปัญญาประดิษฐ์ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบ รวมถึงการเรียนของพวกเขาด้วยเช่นกัน
เทคโนโลยีจะเข้ามาช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ในห้องเรียนของเด็ก ๆ อย่างมาก ทั้งช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่สมจริง โดยผสมผสานระหว่างโลกดิจิทัลและชีวิตจริงเข้าด้วยกัน แนวโน้มที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการรวมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เข้ากับห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงพื้นฐานแนวทางการสอน สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ และประสบการณ์ทางการศึกษาโดยรวมอีกด้วย
ยกระดับ EdTech ด้วยเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ที่ไปไกลกว่าเดิม
EdTech (Educational Technology) เป็นศูนย์รวมเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาและสื่อสาร โดยประยุกต์วิชาการต่าง ๆ ด้วยวิธีคิดสร้างสรรค์มาจัดการเรียนการสอนให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถปรับให้เหมาะสมกับผู้เรียนรายบุคคลแบบตรงจุด ตัวอย่างเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน เช่น Google Classroom ห้องเรียนออนไลน์สำหรับคุณครูและนักเรียนในรูปแบบเว็บไซต์ Microsoft Teams แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อการสื่อสารอย่างเต็มรูปแบบในโปรแกรมและแอปพลิเคชัน หรือ Kahoot! เกมเชิงการเรียนรู้ในรูปแบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่เข้าถึงได้ง่ายในห้องเรียน ด้วยเป้าหมายของ EdTech ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน แต่ยังส่งเสริมการศึกษาให้เข้าถึงได้ง่ายและสะดวก พร้อมเป็นห้องเรียนแบบผสมผสาน (Hybrid Learning/Classroom) ที่เน้นเสริมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ ให้เกิดเป็นความเข้าใจและได้ร่วมลงมือปฏิบัติจริง พร้อมช่วยประเมินการสอน ลดภาระที่เกินความจำเป็นของคุณครู ดังนั้นในปี 2025 จะมีเทรนด์เทคโนโลยีอะไรบ้างที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงการศึกษาให้ EdTech ไปได้ไกลกว่าเดิม
- สร้างประสบการณ์เฉพาะตัวด้วย Artificial Intelligence (AI)
ไม่นานมานี้เราจะได้เห็นบทบาทของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่ถือเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาที่ช่วยให้เกิดประสบการณ์การเรียนรู้แบบเฉพาะบุคคล สามารถตอบสนองความต้องการและปรับแต่งรูปแบบการเรียนรู้ให้เหมาะสมได้ โดยแพลตฟอร์มการสอนที่ใช้ AI สามารถประเมินความเข้าใจของผู้เรียน วิเคราะห์ข้อมูลของผู้เรียนเพื่อระบุจุดแข็งและจุดอ่อน ปรับแต่งเนื้อหาและกิจกรรมเพื่อปรับผลการเรียนรู้ให้เหมาะสมที่สุด ซึ่งแนวทางนี้จะช่วยส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้เรียนให้สามารถก้าวหน้าได้ตามความสะดวกของตนเอง - เรียนรู้สมจริงด้วยโลกเสมือนของเทคโนโลยี VR และ AR ในห้องเรียน
เป็นอีกเทรนด์ที่น่าจับตามองของปี 2025 นี้ สำหรับเทคโนโลยี VR (Virtual Reality) และ AR (Augmented Reality) ที่ช่วยมอบประสบการณ์การเรียนรู้ที่สนุกและสมจริง จะดีแค่ไหนถ้าเนื้อหาการสอนสามารถสัมผัสได้มากกว่า การอ่านแค่ตัวอักษร โดย AR จะช่วยเพิ่มข้อมูลเสมือนจริงในสภาพแวดล้อมจริง เช่น การใช้ AR เพื่อแสดงภาพ 3 มิติกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนและสร้างบรรยากาศใหม่ ๆ ในขณะที่ VR สามารถสร้างโลกเสมือนที่ผู้เรียนโต้ตอบได้เพื่อช่วยให้เข้าใจในบทเรียนมากขึ้นและหลากหลายขึ้น ตัวอย่างเช่น จำลองการทดลองในห้องวิทยาศาสตร์ หรือการฝึกซ้อมทักษะทางการแพทย์ - เล่นเกมเพื่อการศึกษา ให้การเรียนรู้ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ลดความจำเจในหลักสูตรรายวิชาให้น่าสนใจกว่าเดิมด้วย Gamification ที่ใช้ประโยชน์จากองค์ประกอบของเกม เช่น คะแนน ตราสัญลักษณ์ หรือกระดานบอร์ด เพื่อกระตุ้นและดึงดูดความสนใจของผู้เรียน การนำรูปแบบของเกมมาใช้ในกิจกรรมการศึกษา จะทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วม รู้สึกสนุก และสามารถเข้าใจในบทเรียนเพิ่มเติม
(kues1 / Freepik)
- ปลอดภัยไว้ก่อนด้วย “บล็อกเชน” ผู้ช่วยจัดการข้อมูลการศึกษา
เทคโนโลยีบล็อกเชนจะเข้ามาช่วยจัดการข้อมูลทางการศึกษาและรับรองผลการเรียน การสอบ หรือใบประกอบวิชาต่าง ๆ ได้อย่างปลอดภัย เป็นระเบียบ ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงข้อมูลการศึกษาของตนเองได้ตลอดเวลา สะดวกและสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการยืนยันความสำเร็จหรือประสบการณ์การเรียนรู้กับสถานศึกษาหรือองค์กรต่าง ๆ ได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลถึงการปลอมแปลง - เชื่อมต่อกันง่ายขึ้นด้วย “คลาวด์” ประมวลผลเพื่อทำงานร่วมกัน
คลาวด์หรือการบริการ System Host ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความยืดหยุ่นและปรับขนาดได้สำหรับสถาบันการศึกษา ช่วยให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรทางการศึกษา เครื่องมือการทำงานร่วมกัน และจัดเก็บพื้นที่ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งคลาวด์ช่วยส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างผู้เรียนและครูได้อย่างสะดวก พร้อมทุกสถานที่ทุกเวลา และช่วยให้มั่นใจได้ว่าสื่อการเรียนรู้จะพร้อมใช้งานอยู่เสมอ - เข้าถึงข้อมูลการศึกษาได้ง่ายขึ้นผ่านอุปกรณ์สื่อสาร
สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตทำให้การเรียนรู้ผ่านอุปกรณ์สื่อสารกลายเป็นความจริง เมื่อแอปพลิเคชันเพื่อการศึกษา หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) และหลักสูตรออนไลน์สามารถเข้าถึงได้ง่ายบนอุปกรณ์พกพา จึงช่วยให้ผู้เรียนสามารถเข้าถึงเนื้อหาการสอนได้ทุกที่ ความยืดหยุ่นนี้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะสะดวก ใช้งานง่าย สามารถเรียนรู้ได้ในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ นอกจากนี้ อุปกรณ์สื่อสารยังส่งเสริมเรื่องการเรียนรู้ผ่านชุมชนออนไลน์ (Social Learning) ที่ความรู้จะไม่จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียนอีกต่อไป โดยเทรนด์ EdTech ล่าสุดนี้คาดว่าจะมีอิทธิพลอย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลาย ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้อื่นในแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น ร่วมกลุ่มสนทนา ช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและสนับสนุนการเรียนรู้ในรูปแบบที่ไม่จำกัด
(frimufilms / Freepik)
- หุ่นยนต์ในระบบการศึกษา
หุ่นยนต์เป็นเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในการศึกษาด้าน STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) รวมไปถึงช่วยให้ทำความเข้าใจเรื่องของโครงสร้าง เช่น การออกแบบ การก่อสร้าง และการเขียนโปรแกรม ซึ่งหุ่นยนต์จะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา นอกจากนี้ หุ่นยนต์ยังส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม เนื่องจากผู้เรียนจะได้สำรวจความเป็นไปได้ของระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ - เทคโนโลยีภาพพิมม์ 3 มิติ เพื่อการเรียนรู้แบบปฏิบัติจริง
สุดยอดนวัตกรรมที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิธีการเรียนรู้ให้ง่ายขึ้นและสร้างสรรค์สำหรับเทคโนโลยีภาพพิมพ์ 3 มิติ โดยเป็นการสร้างโมเดลจำลองทางกายภาพของการออกแบบ ผู้เรียนจะสามารถมองเห็นและซึมซับกับแนวคิดที่ซับซ้อนได้อย่างเป็นรูปร่างมากขึ้น วิธีการนี้จะช่วยเพิ่มความเข้าใจและสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมแบบปฏิบัติจริง พร้อมส่งเสริมหลักสูตรการเรียนรู้ให้สมบูรณ์แบบ โดยเฉพาะในรายวิชาที่ต้องอาศัยโมเดลจำลองดูโครงสร้างต่าง ๆ อย่าง สถาปัตยกรรม วิศวกรรม หรือวิชาที่ต้องรู้ถึงกระบวนการของสิ่งมีชีวิตอย่างกายวิภาคศาสตร์และชีววิทยา - แนวทางของไมโครเครดิต (Micro-credentials) เรียนรู้ตรงจุดในระยะสั้นแต่ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน
การศึกษาพลิกผันอย่างรวดเร็วตลอดเวลาจนอาจตามไม่ทัน เพื่อเสริมทักษะให้รองรับกับความต้องการของตลาดแรงงานในอนาคต ไมโครเครดิตจึงเป็นแนวทางของหลักสูตรระยะสั้นที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนพัฒนาความรู้เฉพาะด้าน โดยเปิดสอนทางออนไลน์และสามารถเรียนจบได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่วัน ซึ่งไมโครเครดิตกำลังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นวิธีที่ผู้เรียนสามารถพัฒนาและฝึกฝนทักษะใหม่ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
(Freepik)
สำรวจตลาด EdTech Sartups ที่รันวงการศึกษาให้มีความหลากหลาย
การเติบโตเขึ้นแบบก้าวกระโดดของ EdTech โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 พบว่า มีสตาร์ทอัปด้านการศึกษาเกิดขึ้นมากมายทั่วโลก เนื่องจากแนวทางการสอนที่เปลี่ยนแปลงไปจากการล็อกดาวน์ ทำให้โรงเรียนและมหาวิทยาลัยต้องปรับตัวเปิดคลาสเรียนออนไลน์ และต้องทำงานโดยอาศัยเทคโนโลยีต่าง ๆ จาก EdTech มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการในบริษัทใหญ่ ๆ เห็นถึงโอกาสการนำไปใช้พัฒนาทักษะให้กับคนในองค์กรให้คุ้นชินกับการเทรนผ่านออนไลน์ ดังนั้นเรื่องของ EdTech จะไม่ได้อยู่แค่ในห้องเรียน แต่การศึกษากำลังสามารถเข้าถึงได้กับคนทุกช่วงวัย
การลงทุนใน Edtech Startup ทั่วโลก มีมากกว่า 10 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 313,005 ล้านบาท ในส่วนของประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะมีมากกว่า 4,695 ล้านบาท และในประเทศไทย คิดเป็นประมาณ 156 - 313 ล้านบาท ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา Edtech Startup สร้างสถิติผู้ประกอบการหน้าใหม่มากขึ้น โดยมีบริษัทสตาร์ทอัปเกิดขึ้นถึง 33 บริษัททั่วโลก ในอนาคตแนวโน้มของ Edtech ยังคงโฟกัสไปในเรื่องใหญ่ เช่น การฝึกอบรมด้านภาษา การฝึกทักษะใหม่ทางวิชาชีพ หรือสร้างแผนการเรียนรู้จำเพาะบุคคลที่ผู้เรียนสามารถออกแบบการสอนเองได้ นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยีระดับสูงเข้ามาใช้งานอย่าง AI เทคโนโลยี Mixed Reality ที่ผสานโลกความจริงเสมือนไว้กับบทเรียน รวมถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการคิดแบบ Cognitive Learning ทฤษฎีการเรียนรู้ ที่อาศัยความเข้าใจเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มาใช้ในกลุ่มสตาร์ทอัปรุ่นใหม่
สุดท้ายนี้ เราจะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านการศึกษาที่ก้าวหน้าขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ จำนวนมาก ที่สามารถนำมาปรับใช้ในการศึกษาทุกระดับชั้น ทุกกลุ่มคน มีความยืดหยุ่นและเข้าถึงง่าย เพราะการที่ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม สามารถโต้ตอบได้ ย่อมจะทำให้ผู้เรียนมีผลลัพธ์ทางความรู้ที่มีประสิทธิภาพ และการที่ตลาดของ EdTech เติบโตนั้นก็เน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในระบบการศึกษา การนำ EdTech 2025 เข้ามาใช้งานในโรงเรียนจึงจะไม่เพียงแค่ทำให้การศึกษาในปัจจุบันมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังช่วยเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียนและผู้สอนสามารถปรับตัวไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในโลกที่ทุกอย่างถูกพัฒนาอย่างรวดเร็วขึ้นด้วยได้
ที่มา : บทความ “10 Tech Trends That Will Disrupt Education In 2025” โดย Davonte Lee
บทความ “เทรนด์ EdTech ล่าสุด: 5 เทคโนโลยีการศึกษาที่จะมาแรงในปี 2025” จาก starfishlabz.com
บทความ “EdTech คืออะไร ? ทิศทางสำคัญของเทคโนโลยีการศึกษาไทยในอนาคต” จาก starfishlabz.com
บทความ “จับความเคลื่อนไหว EdTech Ecosystem ในประเทศไทยหลังปี 2021” โดย Yui Jantanarak
บทความ “ส่องโมเดล ‘Edtech Startup’ หรือสตาร์ทอัพด้านการศึกษา ทำอย่างไรให้เป็น ‘Unicorn’ สร้างรายได้ทะลุพันล้านเหรียญ” โดย Yui Jantanarak
บทความ “เผยโฉม 4 EdTech Startup จาก StormBreaker Venture โครงการบ่มเพาะ Startup ปฏิวัติการศึกษา ครั้งแรกใน ASEAN” จาก techsauce.co
เรื่อง : กาญจณี สุคะมะโน